Before the flight

(1)

“เห้อออ…”

“แมวน้อยเป็นไรครับ” ตั้งแต่เมื่อไหร่นะที่เราเลิกเรียกชื่อแล้วหันมาเรียกแทนตัวเองว่าแมวกับวาฬ

“ไม่ได้เป็นไรสักหน่อย”

“นั่งกอดเข่าตรงนี้ถอนหายใจขนาดนี้คิดว่าไม่รู้หรือไง” ผมได้แต่นั่งก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง

“ก็จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วนี่หน่า”ส่งเสียงอู้อี้ตามนิสัยตัวเอง

เขายิ้มก่อนจะเดินมาขยี้หัวจนต้องหดคอหนี “ก็ยังอยู่แค่ห่างกันนิดเดียวเอง”

“นิดเดียวบ้าไรเล่าโทรหาแล้วมาหาได้ไหมล่ะ”

“ทำไมงอแงจังล่ะเนี่ย” โดนบ่นหนึ่งทีก่อนจะโดนยกไปวางบนตักโยกหัวไปมาก่อนจะถูกจับไปแปะไว้ที่ร่องบ่า “จำได้ไหมครั้งแรกที่เจอกัน” เขาถามจนผมต้องหันกลับไปมองสงสัยจะเผลอทำหน้าเครียดเพราะเขาหัวเราะออกมาเบาๆ

“เซค 1 วิชาชีววิทยาใช่ไหมครับ”

“เหยยยยดจำได้ไง”

“แล้วตอนนั้นทำไมถึงมานั่งข้างๆกันที่นั่งก็มีตั้งเยอะ” เขาเงียบไปสักพักหน้าตาครุ่นคิดเหมือนพยายามจะดึงบรรยากาศตอนนั้นกลับมา

“เหมือนตอนนี้ไงห้องตั้งกว้างนั่งคนเดียวคงเหงาแย่” พูดพลางกระชับแขนมากอดบริเวณเอวเอาไว้

“นั่งอยู่ 2 เดือนแล้วก็หายไป”

เราเป็นเพื่อนกันอยู่ประมาน 2 เดือนก่อนจะแยกย้ายไปตามกลุ่มที่น่าจะทำให้รู้สึกสบายใจมากกว่าเขาไปอยู่กับกลุ่มที่ทั้งชั้นปีเรียกว่า ‘ท้อปโมเดล’ เนื่องจากมีแต่พวกหน้าตาดีส่วนผมหรอ… อยู่ในกลุ่มที่อยู่ระดับกลางๆไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเท่ากับเขาเวลาเรียนก็เจอกันทักทายกันไม่มีอะไรพิเศษที่บ่งบอกว่าจะมาอยู่กันแบบนี้ได้

“งอนหรอ”

“เปล่าซะหน่อย”

“งอนขัดๆ” พูดแล้วก็เอานิ้วมาจิ้มที่แก้มบ้าบอ… “หิวหรือยัง”

“ก็นิดนึง”ผมตอบก่อนจะกลับไปพิงที่ร่องบ่าของเขาพลิกตัวซุกไปมาอยากอยู่แบบนี้นานๆชะมัด…

 

(2)

“ไปนานไหม”ผมถามก่อนจะจุดบุหรี่สูบเขามองหน้าผมอย่างเบื่อหน่ายไม่รู้ว่าเพราะคำถามที่ถามซ้ำแล้วซ้ำอีกหรือเพราะบุหรี่ในมือ

“หนึ่งปีไง”

“ตั้ง 12 เดือนเลยนะ”

“ก่อนหน้านี้ไม่มีปอนด์แมวยังอยู่ได้เลย” พูดแบบนี้ใครมันจะไปต่อได้วะ “จะพยายามโทรมาหาทุกวันนะ”

“ไม่ต้องหรอกกว่าจะโทรมาแมวก็หลับแล้ว”

“ทำไมต้องงอน”

“ไม่ได้งอนนะ”

“งอนชัดๆ”

“…” ไม่เถียงหรอกเถียงไปก็ไม่ชนะเอาจริงๆผมไม่เคยเถียงใครชนะเลยต่างหาก

“Tinder ก็ยังมีอยู่นี่ปัดขวาไปสิ” เขาพูดทำลายความเงียบหลังจากผมพ่นควันออกทางปาก

“นี่แอบเปิดดูโทรศัพท์หรอ? ตอนไหน?”

“หลับได้ทั้งวันขนาดนี้เอานิ้วมาจิ้มปลดล็อคยังไม่รู้ตัวเลย” เขายิ้มยิ้มทำลายล้างแบบนั้นอีกแล้วยอมก็ได้…

“ไม่หวงหน่อยหรอ”ผมถาม

“ก็แมวบอกเองว่าความรักกับเซ็กส์มันแยกกัน” เขาพูดหน้าตาเฉยให้ตายสิทำไมต้องย้อน “แต่ก็อย่ามั่วมากนะอันตราย”

“มีแฟนแล้วไม่มั่วหรอก”

“ถ้าไม่ติดว่าสูบบุหรี่อยู่นะพ่ออุ้มขึ้นเตียงแน่” เขาพูดก่อนจะส่งยิ้มอันน่ากลัวมาอีกแล้วยิ้มที่รู้ว่าต้องมีเรื่องให้เหนื่อยชัวร์ๆ

“พูดแบบนี้กูยอมทิ้งบุหรี่เลยนะ…”

 

(3)

“วันนั้นจะไปส่งวาฬไหม” เขาถามพลางลูบไล้ไหล่ของผม

“ไปได้หรอ” ผมถามกลับเพราะตอนแรกเราตกลงกันแล้วว่าผมจะไม่ไปส่งเขาเพราะติดงานสำคัญ

“ไม่ไปแหละดีแล้ว”

“กลัวร้องไห้หรอ”

“ใครกันแน่ที่จะร้องไห้” เขากระซิบที่ข้างหูก่อนจะงับมันเบาๆ 

“แมวร้องก่อนแล้วเด่ววาฬก็ไปแอบร้องแมวรู้เหอะ”ผมหดคอหนีพลางหันไปย่นจมูกใส่

ท่ามกลางความมืดเขายิ้มกลับมาไม่ใช่ยิ้มทำลายล้างไม่ใช่ยิ้มน่ากลัวมันคือรอยยิ้มทีเผลอที่มีเสน่ห์ของเขารอยยิ้มแทนคำขอบคุณในวันแรกที่เราเจอกัน

“จ้องขนาดนี้กะให้ละลายไปเลยหรอ”

“บ้า…” ผมตีเบาๆลงไปบนอกของเขา

“เนี่ยเดี๋ยวจะไม่ได้เจอแมวน่ารักๆแบบนี้อีกตั้งนาน” ให้ตายสิยิ้มไม่ยอมหุบขนาดนี้กะให้ตายกันเลยหรือไง “อยู่นิ่งๆให้กอดนานๆได้ไหมครับ”

เรานอนกอดกันอยู่อย่างนั้นนานเท่าไหร่ไม่รู้แต่สิ่งที่ผมรู้คืออยากหยุดเวลาเอาไว้แบบนั้นชะมัด…